โกปี้..ควนโดน
สำหรับแหล่งผลิตกาแฟในพื้นที่ภาคใต้
ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในช่วงนี้ คือ กาแฟที่ผลิตในชุมชน
จากกลุ่มแม่บ้านโดยเฉพาะกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านสะพานโยง ตำบลควนโดน อำเภอควนโดน
จังหวัดสตูล
กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านสะพานโยง
ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 506 หมู่ที่ 1 จัดตั้งขึ้นจากลุ่มสตรีในชุมชน
ที่ได้รวมตัวสร้างกิจกรรมเสริมด้วยการทำขนมพื้นเมืองทั่วไปจำหน่าย
ภายใต้ความช่วยเหลือของหน่วยงานภาครัฐที่มาให้การสนับสนุน
แต่ด้วยข้อจำกัดของการทำขนมหลายๆอย่างที่กลุ่มไม่สามารถดำเนินการต่อได้
กลุ่มฯจึงหยุดทำไประยะหนึ่ง และเริ่มรวมกลุ่มใหม่อีกครั้งในปี พ.ศ. 2545 ซึ่งครั้งนี้ทางกลุ่มฯได้หันมาจับข้าวพื้นเมืองที่ปลูกกันอยู่ในพื้นที่แปรรูปเป็นข้าวซ้อมมือออกจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับชุมชนและกลุ่มฯ
คุณสุวรรณี
ชุ่มจำรัส ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านสะพานโยง เล่าให้ฟังว่า
ทางกลุ่มฯทำกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีสมาชิกเริ่มแรกเพียงแค่ 35 คน
รวมกันทำกิจกรรมต่างๆมากมาย จนปัจจุบันมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 56 คน มีกิจกรรมหลากหลายเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประชุมกลุ่ม
การพัฒนาทั้งความรู้และกระบวนการผลิต
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆที่ทางภาครัฐได้เข้ามาอบรมสอนหลักสูตรระยะสั้นควบคู่ไปกับการผลิตข้าวซ้อมมือ
ตลอดระยะเวลาการทำงานของกลุ่มฯได้มีผู้คนเข้ามาศึกษาดูงาน
กิจกรรม การทำงานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น
จนกลายเป็นสถานที่ศึกษาดูงานที่มีกิจกรรมที่น่าสนใจ
และช่วงนี้เองทางกลุ่มได้ชงกาแฟโบราณพื้นบ้านไว้ต้อนรับผู้ที่เข้ามาดูงาน
หลายคนติดใจ พร้อมถามหาเพื่อซื้อติดมือกลับไป
จุดนี้เองทางกลุ่มฯเลยมองว่าน่าจะทำจำหน่าย จึงเริ่มทำแบ่งขายแบบ “ผูกถุง” วางขายที่กลุ่ม หรือมีบ้างก็ออกไปขายที่อำเภอ และฝากขายเวลามีงานในพื้นที่
เพียงระยะเวลาไม่นานนัก โกปี้ควนโดน สูตรอิสลาม มีการตอบรับจาก “คอกาแฟ” กระทั่งแปรรูปกันแทบไม่ทัน
กาแฟ
โบราณ ภาษาพื้นบ้านหรือภาษาท้องถิ่นเรียกว่า โกปี้ หรือกูปี้
ชื่อเพี้ยนมาจากภาษามลายูว่า โกปี้
เริ่มเข้ามาแถบวังประจันซึ่งเป็นเขตรอยติดต่อกับรัฐปะลิส ประเทศมาเลเซีย
แล้วเริ่มแพร่หลายในอำเภอควนโดน จังหวัดสตูล
ซึ่งครั้งนั้นนอกจากนำพันธุ์กาแฟเข้ามาปลูกแล้ว ยังหอบเอาวิธีการผลิตแปรรูปกาแฟตามตำรับของชาวมาเลเซียมาด้วย
กระทั่งเริ่มเป็นที่แพร่หลายและรู้จักกันในอำเภอ
“กลุ่มได้หันมาจับทำเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP
และตั้งชื่อใหม่ว่า “กาแฟโบราณควนโดน”
ไปพร้อมๆกับการผลิตข้าวซ้อมมือ และมีโอกาสไปออกงานสินค้าร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัด
กลุ่มฯก็จะนำกาแฟไปร่วมออกร้านทุกครั้งที่มีกิจกรรม
ทำให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น ตลาดเปิดกว้างขึ้น
คนให้ความสนใจที่จะชื้อไปเป็นของฝาก ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
จึงหันมาพัฒนาเรื่องของบรรจุภัณฑ์ใหม่เป็นกล่องให้ดูดี
ออกร้านทุกครั้งก็จะมีคนถามหาทุกครั้ง”คุณสุวรรณีกล่าว
กาแฟโบราณควนโดน
กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มฯและชุมชนเพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นสินค้า
OTOP ที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสตูล
เพราะด้วยเอกลักษณ์เฉพาะทั้งกลิ่นและรสชาติทำให้กาแฟที่สามารถติดตลาดได้ไม่ยาก
กระบวนการและขั้นตอนการผลิต
ทุกขั้นตอนการผลิตทางกลุ่มฯจะยึดกรรมวิธีการผลิตแบบโบราณดั่งเดิม
โดยคุณสุวรรณี ได้เล่าขั้นตอนการทำ
เริ่มจากการนำผลกาแฟสดมาคั่วในกระทะด้วยไฟปานกลางจนเมล็ดเริ่มมีสีดำและนำขึ้นมาตากทิ้งไว้
จากนั้นนำน้ำตาลทรายแดงผสมกับน้ำตาลทรายขาวใส่เกลือเม็ดลงไปเล็กน้อย
นำไปเคี้ยวด้วยไฟปานกลางจนละลายและนำเมล็ดกาแฟที่คั่วตากไว้ใส่ลงไปในกระทะคลุกเคล้าให้เมล็ดกาแฟและน้ำตาลเป็นเนื้อเดียวกัน
(แตงเมย์) ตักใส่ถาดเกลี่ยให้ความหนาของกาแฟอยู่ประมาณ 2 เซนติเมตร ผึ่งรมให้แห้งและนำมาตำด้วยครกไม้จนละเอียดและนำไปร่อนด้วยตะแกรงก็จะได้เนื้อกาแฟที่ละเอียดในระดับหนึ่งจากนั้นจะนำไปเพิ่มความละเอียดด้วยการบดด้วยเครื่องอีกครั้งหนึ่ง
ก่อนนำไปบรรจุลงถุงซิปและใส่กล่องจำหน่าย
กำลังการผลิตในแต่ละเดือน
ทางกลุ่มฯสามารถผลิตได้ถึง 200 กิโลกรัม ส่งจำหน่ายในรูปแบบบรรจุลงถุงซิปถุงละ 200 กรัมจำหน่ายกล่องละ 50 (ราคาส่ง)
ส่วนราคาปลีกจะอยู่ที่กล่องล่ะ 70 บาท
ซึ่งตอนนี้ส่งให้กับห้างเทสโก้โลตัส สาขาควนโดน
และส่งขายในพื้นที่ใกล้เคียงกับจังหวัดสตูล
กาแฟโบราณควนโดน
สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 1 ปี ไม่ควรโดนความร้อน
ผู้บริโภคสามารถเลือกชงรับประทานได้ทั้งแบบร้อนและเย็น
ซึ่งวิธีการชงนั้นจะมีอยู่สองแบบ คือ
ชงกับน้ำร้อนเหมือนกาแฟทั่วไปหรือจะชงกับน้ำร้อนโดยผ่านผ้ากรอง
ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้บริโภคว่าจะชอบรับประทานแบบใด
หรือจะอ่านวิธีการชงตามสูตรที่แนะนำไว้ข้างกล่อง
“กาแฟโบราณควนโดนของกลุ่ม กำลังพัฒนาเป็นกาแฟพร้อมชงสำเร็จรูป 3 in
1 ให้สะดวกกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ และกำลังจะเปิดตลาดต่างประเทศ
ทั้งนี้กลุ่มฯยังเริ่มส่งเสริมให้คนในชุมชนหันมาปลูกกาแฟ
เป็นรายได้เสริมจากอาชีพที่มีอยู่ ซึ่งตรงนี้กลุ่มฯสามารถเพิ่มกำลังการผลิต
อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนการนำเข้าผลกาแฟสดจากที่อื่นได้อีกทางหนึ่ง”คุณสุวรรณีกล่าว
ขั้นตอนการทำโกปี้ (กาแฟโบราณ) ..
1.เก็บเมล็ดโกปี้
ขอขอบคุณ: โต๊ะหวันม๊ะ (ชาวบ้านควนสะตอ)Kopi